วันพุธที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2560
เนื้อหา/กิจกรรม
โครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองในและต่างประเทศ
โครงการ แม่สอนลูก
โครงการ แม่สอนลูก
- ดำเนินการโดยกรมการฝึกหัดครู กระทรวงศึกษาธิการ
- จัดสำหรับเด็กที่ด้อยโอกาส โดยให้มารดาเป็นผู้สอนเองที่บ้าน
- ใช้วิธีการแนะนำให้รู้จักใช้ทักษะ รู้จักคิดและเรียนรู้มโนทัศน์ด้านต่างๆ
- ใช้รูปแบบการทดลองสอนแม่เพื่อสอนลูกที่บ้าน โดยอาศัยรูปแบบโครงการการเยี่ยมบ้านของประเทศอิสราเอล
- มารดามีความพอใจในกิจกรรม มีความรู้ความเข้าใจและสามารถส่งเสริมพัฒนาการด้านต่างๆเพิ่มขึ้น
- เนื้อหากิจกรรมในโปรแกรมนี้ เป็นกิจกรรมปฏิสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก
โครงการ แม่สอนลูก
- ดำเนินการโดยศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน จ.อุบลราชธานี
- เป็นโครงการทดลองหารูปแบบในการให้ความรู้แก่กลุ่มสตรีแม่บ้านในชุมชน ได้นำแนวทางของโปรงแกรม Hippy Program ของประเทศอิสราเอล
- เน้นให้ผู้ปกครองมีความพร้อมก่อนส่งลูกเข้าเรียน แม่จะส่งเสริมเด็กด้านต่างๆ เช่น ภาษา การพัฒนากล้ามเนื้อ และสติปัญญา
- มีการบันทึกผลและการปฏิบัติรวมทั้งการเปลี่ยนแปลงของแม่และลูก
การพัฒนารูปแบบการให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองในการอบรมเลี้ยงดูเด็กต่ำกว่า 3 ปี ผ่านโรงพยาบาลชุมชนและสถานีอนามัย
เป็นโครงการภายใต้งานวิจัยของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เกิดจากความต้องการให้ครอบครัวเป็นหลักของการพัฒนาเด็กในช่วงอายุต่ำกว่า 3 ปี ด้วยการให้พ่อแม่ ผู้ปกครองเป็นผู้เลี้ยงดูที่มีคุณภาพ โดยใช้รูปแบบการให้ความรู้แก่ผู้ปกครอง ประกอบด้วย 4 รูปแบบ คือ
- วิธีกระบวนการเรียนรู้โดยการมีส่วนร่วม
- วิธีการสนทนากลุ่ม
- วิธีอภิปรายกลุ่ม
- วิธีการบรรยาย
โครงการ พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในเด็กไทย
ดำเนินงานโดยสำนักสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต เป็นโครงการที่มุ่งเร่งพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็กและเยาวชนไทย โดยผลักดันให้ครอบครัวมีส่วนร่วมที่สำคัญ ด้วยการจัดทำชุดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ในเด็กและเยาวชนไทย เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถนำไปปฏิบัติใช้ได้จริง ประกอบด้วย
- แบบสังเกตความคิดสร้างสรรค์ในเด็กสำหรับพ่อแม่
- คู่มือความรู้และการจัดกิจกรรมพัฒนาความคิดสร้างสรรค์
- หลักสูตรการเลี้ยงลูกให้มีความคิดสร้างสรรค์
- ซีดีการเรียนรู้ด้วยตนเองเรื่อง “การเลี้ยงลูกให้มีความคิดสร้างสรรค์”
- จัดอบรมพ่อแม่ผู้ปกครองเรื่อง “การเลี้ยงลูกให้มีความคิดสร้างสรรค์”
โครงการ บุ๊คสตาร์ทในประเทศอังกฤษ (Bookstart UK)
โครงการ บุ๊คสตาร์ท หรือเรียกว่า “หนังสือเล่มแรก” ก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศอังกฤษ เมื่อปี พ.ศ. 2535 โดย นางเวนดี้ คูลลิ่ง ภายใต้ บุ๊คทรัสต์ ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่มีจุดมุ่งหมายในการนำหนังสือสู่คน นำคนสู่หนังสือ
นับเป็นโครงการแรกของโลกที่ว่าด้วยหนังสือสำหรับเด็กทารก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เด็กทารกในอังกฤษทุกคนได้รับโอกาสและสนับสนุนให้พัฒนาความรู้สึกรักหนังสือและการอ่านไปตลอดชีวิต ด้วยการจัดสรรให้เด็กทารกทุกคนได้รับ “ถุงบุ๊คสตาร์ท”
“ถุงบุ๊คสตาร์ท”
ภายในถุงประกอบด้วย
-หนังสือที่ได้รับการคัดสรรแล้ว 2 เล่ม
-หนังสือแนะนำพ่อแม่ด้วยภาพเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็กและโยงไปถึงการเลี้ยงดูด้วยหนังสือ
-ของชำร่วยสำหรับเด็ก เช่น ผ้ารองจานฯลฯ
-แผนที่แนะนำห้องสมุดแถวละแวกบ้าน
-บัตรสมาชิกห้องสมุดสำหรับเด็ก
-รายชื่อหนังสือสำหรับเด็ก
-รายชื่อศูนย์สนับสนุนคุณแม่เลี้ยงลูก
คำถามท้ายบท
1. ในการดำเนินโครงการให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองทั้งในและต่างประเทศมีเป้าหมาย
ร่วมกันอย่างไร
- เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพการศึกษาปฐมวัยให้ไปในทิศทางเดียวกัน
2. นักศึกษามีแนวคิดอย่างไรที่จะสนับสนุนให้โครงการการให้ความรู้ผู้ปกครองประสบผลสำเร็จ
อย่างเป็นรูปธรรม จงอธิบาย
- วางแผนงานให้เป็นขันตอนและทำตามแผนงานที่วางไว้ คือ นำความรู้ในเรื่องโครงการต่าง ๆ ที่เป็รประโยชน์ต่อตัวเด็กและผู้ปกครอง มาวางแผนว่าเราจะจัดอย่างไร มีเป้าหมายอย่างไร และเราก็ดำเนินตามแผนที่วางไว้
3.ในฐานะที่นักศึกษาจะเป็นผู้ที่ให้ความรู้แก่พ่อแม่ผู้ปกครองเด็กปฐมวัยในอนาคตจงยตัวอย่างขององค์ความรู้หรือเรื่องที่ต้องการจะถ่ายทอดให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองเพื่อใช้ในการเลี้ยงดูเด็ก มา 5 เรื่องพร้อมอธิบายและยกตัวอย่างประกอบ
- พัฒนาการของเด็กปฐมวัยทั้ง 4 ด้าน คือ เด็กในวันนี้มีพัฒนาการอย่างไรเราควรส่งเสริมอย่างไร
- โภชนาการ คือ สารอาหารที่เด็กในวันนี้ควรได้รับ การทำเมนูง่าย ๆ แต่ได้สารอาหารที่ครบถ้วน
- ศิลปะ คือ ให้คความรู้เรื่องศิลปะนั้นมันดีต่อพัฒนาการทางสติปัญญาของลูก ๆ อย่างไร
- นิทาน คือ ให้ผู้ปกครองตระนักถึงความสำคัญของการเล่านิทานให้ลูก ๆ ฟัง เพราะนิทานจะเสริมส้รางพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน
- ภาษาอังกฤษ คือ กิจกรรมที่ผู้ปกครองใช้เวลาว่างในการพูดคุยสื่อสารในช่วงเวลาสั้น ๆ เป็นคำศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
4. การให้ความรู้ผู้ปกครองสามารถส่งผลต่อพฤติกรรมเด็กหรือไม่อย่างไร จงอธิบาย
- การให้ความรู้ผู้ปกครองสามารถส่งผลต่อพฤติกรรมเด็ก เพราะ ผู้ปกครองจะรู้ว่า เด็กในแต่ละวัยเป็นอย่างไร และจะสามารถแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่เหลาะสมของเด็กในวัยนั้น ๆ ได้
5. นักศึกษาจะมีวิธีในการติดตามผลการให้ความรู้ผู้ปกครองอย่างไร จงอธิบาย
- การพูดคุยกับผู้ปกครองอย่างเสมอ เช่น เมื่อผู้ปกครองมารับลูกที่โรงเรียนอาจมีการพูดคุยเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กหรืออาจติดต่อกันทางอินเทอร์เน็ต
การนำไปประยุกต์ใช้
นำความรู้ที่ได้จากการให้การศึกษาผู้ปกครองไปใช้ในการให้ความรู้ผู้ปกครองอย่างถูกต้อง นำโครงการต่าง ๆ มาปรับ ใช้ในการเรียนการสอน
ประเมิน
ตัวเอง : ตั้งใจฟังที่อาจารย์สอน
เพื่อน : เพื่อนเข้าเรียนตรงเวลาและตั้งใจฟัง
อาจารย์ : อาจารย์ยกตัวอย่างของโครงการต่าง ๆ พร้อมทั้งมีถุงบุ๊คสตาร์ทของไทยมาให้ดู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น